ข่าวบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังแพ้ไม่เป็น ผี บุกเฉือด วิลล่า ถึงถิ่น

ข่าวบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

มาติดตามกับ ข่าวบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันบ้าง เมื่อคืนวัน อาทิตย์ที่ผ่านมาทาง ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็โชว์ฟอร์มได้ดี เมื่อบุกไปอดัดเอาชนะทีมแกร่งอย่าง แอสตัน วิลล่า ถึงถิ่นได้ 2-1 โดยได้ประตูชัยในช่วงท้ายเกม ซึ่งทำให้ทีมนั้นขยับเข้าใกล้ท็อปโฟร์ด้วยการมีแต้มตามหลังเพียงแค่ 6 คะแนน เท่านั้น

ข่าวบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปีศาจแดง ยังโหด บุกขย่ม วิลล่า

สิงห์ผงาด แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 5 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีคิวเปิดบ้านต้อนรับการมาเบือนของทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมใน อันดับที่ 6 ของตารางคะแนน ซึ่งเกมนี้ วิลล่า ต้องการชัยชนะอย่างมาก เพื่อที่จะกลับเข้าไปอยู่ในท็ิปโฟร์ของลีกให้ได้อีกครั้ง ส่วนทาง แมนฯ ยูไนเต็ด เองนั้น ก้ต้องการชัยชนะ เพื่อทำแต้มจี้บรรดากลุ่มท็อปโฟร์เช่นกัน

โดยทาง วิลล่า ของ อูไน เอเมรี่ วันนี้ ไ่มีปัญหาในการจัดตัวแต่อย่างใด ใส่ทาง โอเล่ วัตกิ้นส์ กองหน้าดีกรีทีมชาติ อังกฤษ ลงเล่นมีทาง ลีออน ไบลี่,จาค็อบ แรมซี่ย์,จอห์น แม็คกิน สนับสนุนเกมรุก

ส่วนทางทัพ ปีศาจแดง เอริก เทน ฮาก ก็ขนเอาชุดใหญ่ที่สุดลงสนาม ให้ทาง ราสมุด ฮอยลุนด์ ลงเล่นเป็นหน้าเป้า มีทาง มาร์คัส แรชฟอร์ด,อาเลฮานโดร การ์นาโช่,บรูโน่ แฟร์นันด์ เป็นแนวรุกอยู่ด้านหลัง ให้ทาง ค็อบบี้ ไมนูและทาง คาเซมิโร่ เล่นเป็นมิดฟิลด์คู่กลาง ส่วนแผงหลังใช้ทาง ดิเอโก ดาโลต์,ลุค ชอว์,แฮร์รี่ แม็คไกวร์ และ ราฟาเอล วาราน ส่วนนายทวารเป็นทาง อองเดร โอนาน่า

เริ่มเกมมาเป็นทัพ ปีศาจแดง ที่ครองเกมได้และบุกเข้าใส่อยู่ตลอดเวลา จนมาได้ประตูจากลุกเตะมุม ที่ บรูโน่ เปิดมาเข้าหัว แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โหม่งชงให้ ราสมุด ฮอยลุนด์ ที่ยืนโล่งๆคนเดียว ยิงลอดขา เอมี่ มาร์ติเนซ นายทวาร แอสตัน วิลล่า เข้าไป ในนาทีที่ 17 ช่วย ให้ทัพ ปีศาจแดง ขยับนำ 1-0 จากนั้น ก็เป็นทาง วิลล่า ที่เหมือนจะตั้งหลักได้ และก็บุกใส่ทีมเยือนตลอด แต่ก็ไม่คมพอ ยิงออกไปบ้าง ยิงติดเซฟ โอนาน่า บ้าง จบครึ่งแรก ปีศาจแดง เลยนำที่สกอร์ 1-0

ราสมุด ฮอยลุนด์
ราสมุด ฮอยลุนด์

จากนั้นมาในครึ่งหลัง วิลล่า ก็ยังครองบอลบุกใส่อย่างต่อเนื่อง ทีมเยือนเองก็ตั้งรับอย่างเหนียวแน่น แต่ก็มาโดนลูกตีเสมอจนได้ เมื่อ วิลล่า ได้ลูกเตะมุม เปิดเข้ามา เป็นทาง เคลย์มองต์ ลองเล่ต์ กองหลัง วิลล่า ยิไปติดเซฟ โอนาน่า กองหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เคลียร์ไม่ขาด บอลไปเข้าทาง ลีออน ไบลี่ ยิงแฉลบ บรูโน่ มาเข้าทางของ ดั๊กกลาส ลุยส์ ยิงจ่อๆเข้าไป วิลล่า ตามตีเสมอได้ที่ 1-1 ในนาทีที่ 67

พอหลังจากนั้น เหมือนทีมเยือนเริ่มฟื้นขึ้นมาบ้าง ก็เริ่มเล่นเกมรุกโต้กลับ เป็นทาง การ์นาโช่ ที่ลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้ามายิงเฉี่ยวเสาสองออกไปแบบน่าเสียดาย ส่วน วิลล่า เองก็มีโอกาสยิงเพิ่มจาก ลุยส์ คนเดิม แต่ยิงโดนไม่ดี โอนาน่า เลยเซฟได้สบายๆ

จนแล้วจนรอด ทีมเยือนก็มีได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 86 เมื่อทาง ค็อบบี้ ไมนู เกี่ยวบอลลง ดึงสองผู้เล่น วิลล่า เข้ามา ทำให้ ดิเอโก ดาโลต์ ที่เติมมาพอดี เปิดบอลจังหวะเดียว ไปเข้าทางของ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง โหม่งเต็มกบาลเข้าไปไม่เหลือ ส่งให้ ปีศาจแดง ขึ้นนำที่ 2-1 และก็จบเกมไปได้ด้วยสกอร์นี้

ปีศาจแดง ฟอร์มแรง เปิดปีใหม่มายังไม่แพ้ใครเลย

เรียกได้ว่าอยู่ในช่วงฟอร์มขึ้นหม้อเลยก็ได้ เพราะว่าทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เอริก เทน ฮาก ยังไม่แพ้ใครเลยนับตั้งแต่เริ่มปีใหม่มา โดยลงแข่งไปทั้งหมด 6 นัด ชนะไป 5 เสมอแค่ 1 ครั้ง เท่านั้น ทำให้ตอนนี้ทีมนั้นมีแต้มจี้ไล่หลังท็อปโฟร์ของลีกเพียงแค่ 6 คะแนน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เหมือนจะหมดลุ้นไปแล้วด้วย

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

โดยชัยชนะของทัพ ปีศาจแดง นั้นเป็นการชนะในบอลถ้วย เอฟเอ คัพ ที่ชนะทีมรองบ่อนอย่าง วีแกน แอตเลติก กับทาง นิวพอร์ท เคาน์ตี้ แต่ว่าในสามเกมหลังสุดของลีกนั้น ทีมโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมอย่างมาก เอาชนะคู่แข่งมาได้ 3 นัดรวด เก็บ 9 คะแนนเต็ม เข้ากระเป๋าไปอย่างสวยงาม แถมยังเป็นการชนะคู่แข่งแบบที่ยิงได้มากกว่า 1 ประตูทุกแมตช์อีกด้วย

เวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีแต้มตามหลัง แอสตัน วิลล่า ทีมอันดับ 5 อยู่  5 คะแนน และตามหลัง สเปอร์ ทีมอันดับ 4 อยู่ 6 คะแนน ซึ่งเหลือการแข่งขันอีก 14 นัด ถึงจะจบ ฤดูกาลนี้ สาเหตุที่ทำให้ทาง ทัพ ปีศาจแดง ฟอร์ม ดีขึ้นมาได้นั้น เป็นเพราะว่า เอริก เทน ฮาก ค้นพบ 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดแล้ว

โดยก่อนหน้านี้ มิดฟิลด์ ของทีมเวลาที่ไม่มี คาเซมิโร่ นั้นมักจะใช้ทาง คริสเตียน เอริกเซ่น ซึ่งช้าเกินไป รวมทั้งหารขยับเอา แม็คโทมิเนย์ ลงมาเล่นก็ไม่เวิร์ค แต่การกลับมาของ คาเซมิโร่ และการก้าวขึ้นมาของ ค็อบบี้ ไมนู ทำให้แผงกองกลางของทีมนั้นดูดีขึ้นอย่างมาก แม้ว่า ลินซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังคนสำคัญจะเจ็บไป แต่ทาง ราฟาเอล วาราน เองก็ทดแทนได้ดีไม่แพ้กัน