เรียกเปิดสนามไม่ทันไร ก็มีบอลพลิกล็อคเกิดขึ้นกันแล้ว เมื่อทาง เบลเยียม ที่ลงสนามนัดแรก เจอกับ สโลวาเกีย ที่ลงสนามนัดแรกเช่นกัน แต่เป็นทาง สโลวาเกีย ที่หักปากกาเซียน เอาชนะ เบลเยียม ไปได้ 1-0 จากประตูโทนของทาง อีวาน ชาราน ซึ่งทาง เบลเยียม แม้ว่าจะมีโอกาสมากมายก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นประตูได้เลย ส่วนอีกคู่ของกลุ่มนั้น โรมาเนีย เอาชนะ ยูเครน ไปแบบเหนือความคาดหมายเล็กน้อยที่สกอร์ 3-0

เบลเยี่ยม เปิดหัวไม่สวยแพ้ สโลวาเกีย 1-0

อีกหนึ่งทีมเต็งในศึก ยูโร 2024 ครั้งนี้อย่างทีมชาติ เบลเยียม ลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E นัดแรกเจอกับทีมอย่าง สโลวาเกีย ซึ่งในก่อนเกมนี้บรรดานักวิเคราะห์หลายๆคนเองก็มองว่าทาง ปีศาจแดงแห่งยุโรป นั้นน่าจะเป็นฝ่ายที่เอาชนะได้ไม่ยากเย็นนัก เพราะด้วยตัวผู้เล่นและประสบการณืของนักเตะ

เกมนี้ทาง เบลเยียม ที่คุมทีมโดย โดเมนิโก เทเดสโก กุนซือชาว อิตาเลี่ยน ก็จัดเอาชุดใหญ่ลงสนามแบบครบครันเลยทีเดียว กองหน้านำโดยทาง “พี่ตู้” โรเมลู ลูกากู ส่วนกองกลางตัวนุกสามคนนั้นมีทาง เฌเรมี่ โดกู,เควิน เดอ บอรยด์ และ เลอันโดร ทรอสซาร์ เรียกว่าแนวรุกนั้นสุดอันตรายเลยทีเดียว ด้าน สโลวาเกีย มีทาง โรเบิร์ต โบเซนิค,ลูคัส ฮาราสลิน,อีวาน ชาราน เล่นเป็นสามประสาน มีทาง สตานิสลาฟ โลบอตก้า คุมแดนกลางให้

เริ่มเกมมานั้นเป็นทาง เบลเยียม ที่มีโอกาสได้ระตูก่อน จากจังหวะยิงหน้าประตูแบบโล่งๆของทาง โรเมลู ลูกากู แต่ดันยิงด้วยขวาไปตรงตัวนายทวาร สโลวาเกีย ซะอย่างนั้น จากนั้นมาในนาทีที่ 6 เป้นทาง สโลวาเกีย ที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อ โดกู ไปเล่นยากจะจ่ายให้ เวาท์ ฟาสต์ กองหลังในเขตโทษของตัวเอง แต่ดันจ่ายไม่ตรงไปเข้าทางผู้เล่น สโลวาเกีย ป้ายออกมากลางประตูยิงไปติดเซฟ แต่บอลยังมาเข้าทาง อีวาน ราชาน ยิงซ้ำเข้าไป ส่งให้ สโลวาเกีย ขึ้นนำ 1-0

จากนั้น เบลเยียม เองก็หาโอกาสยิงประตูอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้แบบจะแจ้งซักที จนมาถึงในนาทีที่ 42 ลูกากู ได้บอลหลุดกับดักล้ำหน้า แตะบอลเข้าเขตโทษ แต่ยาวไปเจอนายทวาร สโลวาเกีย วิ่งเข้ามาบีบบต้องรีบยิงแบบจิ้มๆ บอลเลยหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งจากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 1-0 แบบที่ช็อกแฟนบอลเลยทีเดียว

มาในครึ่งหลัง เบลเยียม เองก็ยังคงเดินหน้าลุยหาประตูตีเสมอคืนให้ได้ คราวนี้เป็นทาง สโลวาเกีย ที่เกือบได้ประตูนำ หลังจากเดนิส วาโร กองหลังเติมขึ้นได้โอกาสยิงไกลบอลออกเสาสองไปนิดเดียวเท่านั้น มาถึง เบลเยียม ที่มีโอกาสอีกครั้งกันบ้างในนาทีที่ 55 เลอันโดร ทรอสซาร์ จ่ายอลเข้าเขตโทษ ลูกากู แต่งบอลเข้าขวาก่อนใส่เต็มเหนี่ยว หลายให้เข้าเสาแรก แต่ มาร์ติน ดูบราฟกา ปัดพ้นเสาแรกไปได้

จากจังหวะต่อเนื่องนั้น เบลเยียม เล่นลูกเตะมุมสั้น ทรอสซาร์ เปิดเข้าเขตโทษ อมาดู โอนาน่า เทคโหม่งที่เสาสองบอลย้นมากลางประตู ลูกากู ยิงเข้าไป แต่ทว่าโดนจับล้ำหน้า ลูกากู ไปซะก่อน อดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย เบลเยียม ไม่เพลาเกมรุก นาทีที่ 56 เดอ บรอยด์ จ่ายัดให้ ลูกากู หน้ากรอบเขตโทษ ลูกากู แปะจังหวะเดียวให้ ทรอสซาร์ แตะแล้วยิงด้วยขวา แต่ เดชะบุญ ดูบราฟก้า เหนียวสุดๆ ปัดไปได้อีก

เท่านั้นยังไม่พอนาทีที่ 62 เฌเรมี่ โดกู หระชากบอลเข้าสุดเขตโทษด้านซ้าย จ่ายมาหน้าประตู ดูบราฟก้า ปัดออกมาเข้าทาง โยฮัน บากาโยโก ยิงโล่งๆ แต่ไปติดกองหลัง สโลวาเกีย บนเส้นประตูแบบที่น่าเข้าแบบสุดๆ สุดม้ายในาทีที่ 86 หลุยส์ โอเพนดา ที่เพิ่งจะลงสนามมา กระชากเข้ามาสุดเส้นเขตโทษด้านซ้าย ปาดหักข้อมาให้ ลูกากู ยิงด้วยซ้ายเข้าไป แต่เหมือนคนมันไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด เพราะว่า VAR เรียกดูก็พบว่า โอเพนด้า นั้นไปทำแฮนด์บอลในจังหวะที่จะพาบอลหนีผู้เล่น สโลวาเกีย ซะก่อน เลยทำให้ทาง สโลวาเกีย สามารถเอาชนะ เบลเยียม ไป 1-0 เก็บสามแต้มแบบเหนือความคาดหมายได้

ผีดิบ โรมาเนีย ชนะครั้งแรกในรอบ 24 ปี อัด ยูเครน เละเทะ

อีกคู่ในกลุ่ม E เป็นทาง ยูเครน เจอกับ โรมาเนีย เกมนี้ดแล้ว ยูเครน เป็นทีมที่มีชื่อชั้นดีกว่า แต่ว่าเป็น โรมาเนีย ที่มาด้วยฟอร์มการเล่นที่ดีเกินคาด เอาชนะไปได้ 3-0 แบบที่เรียกว่า ยูเครน แบบทำอะไรไม่ได้เลยดีกว่า โดยได้ประตูจากทาง นิโคลัส สแตนซิอู ยิงไกลสุดสวยก่อนในครึ่งแรก ก่อนที่ครึ่งหลัง โรมาเนีย จากมากดอีกสองตุงจากทาง รัซวาน มาร์ติน และทาง เดนิส ดรากูส ทำให้ โรมาเนีย ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม E

โดยท่านนั้นจะยังสามารถรับชมการ ดูบอลออนไลน์ และดู ไฮไลท์ฟุตบอล ได้ที่เว็บของเรา เว็บ ดูหนังดูบอล.com เว็บที่ท่านไม่ควรพลาด