สำหรับโปรแกรม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในนัดตกค้างกลางสัปดาห์เหลืออีกหนึ่งคู่นั่นก็คือทีม ไบร์ทตัน ที่เปิดบ้านเจอกับทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่กำลังลุ้นแชมป์อยู่ในเวลานี้ ซึ่งทางทีมเยือนเองก็ไม่พลาดเก็บสามคะแนนสำคัญได้ แถมยังเป็นการชนะทีมเจ้าบ้านแบบเด็ดขาดด้วยสกอร์ที่ถึง 4-0 อีกด้วย ถือว่าสามารถเก็บแต้มสำคัญได้อย่างสวยงาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เร่งเต็มสูบอัด ไบร์ทตัน ถึงที่

ในโปรแกรม พรีเมียร์ลีก นัดนี้ ทางทีม ไบร์ทตัน เจ้าบ้านนั้น อยู่ในอันดับที่ 11 ของ ตารางการแข่งขัน ลงเล่นในนัดที่ 33 ส่วนทางทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อยู่ในอันดับที่ 3 ของตารางคะแนนและก็ลงเล่นในนัดที่ 33 ด้วยเช่นกัน เจ้าบ้านนั้นไม่ได้มีลุ้นอะไรแล้ว ส่วนทางทีมเยือนนั้น ยังอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์อยู่ โดยถ้าชนะทุกนัดที่เหลือจะเป็นแชมป์ทันที

ทางกุนซือเจ้าบ้านอย่าง โรแบร์โต้ เดอ แชร์บี้ เกมนี้ ใช้ทาง เจสัน สตีล ลงเฝ้าเสา แผงหลัง 4 คน จากซ้ายไปขวา ใช้ทาง วาเลนติน บาโก้,ลูวิส ดังค์,โจเอล ฟาน เฮ็กเก้,โจเอล เวลต์มัน มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คน ใช้ทาง คาร์ลอส บาเลบ้า กับทาง ยาคุบ โมเดอร์ กลางรุก 3 คนใช้ทาง อดัม ลัลลาน่า,ปาสกาล โกรส และ เจา เปโดร หน้าเป้าทิ้ง แดนนี่ เวลเบ็ค ไว้ล่าตาข่าย

ส่วนทีมเยือนของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วันนี้ใช้ทาง เอแดร์สัน ลงเฝ้าเสา ด้วนแผงหลัง 3 คน วันนี้ใช้ทาง ไคล์ วอล์คเกอร์,เนธาน อาเก้,ยอสโก้ กวาร์ดิโอล มิดฟิลด์ตัวรับ ขยับทาง มานูเอล อาคานยี่ ไปเล่นกับ โรดรี้ และ มาเตรโอ โควาซิซ กลางรุก 3 คนมีทาง แบร์นาโด้ ซิลวา,เควิน เดอ บรอยด์ และ ฟิล โฟเด้น หน้าเป้าใช้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ กองหน้าทีมชาติ อาร์เจนติน่า เอาไว้คนเดียว

เริ่มเกมในครึ่งแรก

เริ่มต้นเกมทั้งสองมทีมเองนั้น ก้ยังไม่ได้บุกอะไรมาก แต่ทาง ไบร์ทตัน เจ้าบ้านเองก็มาได้โอกาสจบสกอร์ก่อน เมื่อ แดนนี่ เวลเบ็ค สบโอกาสยิงบอลบริเวณเส้นเขตโทษ แต่บอลยังเบาไปเข้ามือ เอแดร์สัน รับไว้ได้สบายๆ จากนั้นทาง ซิตี้ เองก็มีโอกาสบ้าง เมื่อ โฟเด้น เปิดฟรีคิกทางดา้นซ้ายเข้าเขตโทษ บอลตกพื้นหนึ่งจังหวะแล้วเป็นทาง เนธาน อาเก้ ที่เข้าชาร์จ บอลโด่งออกหลังไป

แต่ถึงอย่างไรในนาทีที่ 17 เป็นทีมเยทือนที่ได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เมื่อทาง โฟเด้น โชว์จังหวะดึงบอลก่อนที่จะจ่ายออกทางกรอบเขตโทษด้านขวา เป็น ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่เติมขึ้นมาเปิดเข้ากลาง เควิน เดอ บรอยด์ อยุ่ตรงนั้นพอดี พุ่งโหม่งแบบเข้าจังหวะบอลลอยโค้งเสียใต้คาน เจสัน สตีล กระโดดปัดสุดตัวยังไม่ถึง ช่วยให้ทีมเยือนออกนำไป 1-0 ทันที

จากนั้นในนาทีที่ 26 ทาง ซิตี้ ก็ขยับออกนำต่อ 2-0 เมื่อทีมได้ฟรีคิกบริเวณหน้าเขตโทษด้านซ้าย ระยะประมาณ 20 หลา เป็นทาง โฟเด้น ที่รับหน้าที่สังหาร หมายยิงให้โค้งเข้าสองสอง แต่บอลเจ้ากรรมดันไปแฉลบหลัง ปาสกาล โกรส ที่ยืนอยู่ เปลี่ยนทางเข้าไป หมดสิทธิที่ เจสัน สตีล ที่ลอยตัวไปทางเสาสวองแล้วนั้น จะเซฟได้ พาทีม ซิตี้ ออกนำสบาย 2-0

เท่านั้นยังไมพอ เจ้าบ้าน ไบร์ทตัน ที่เกมนี้ ดูเหมือนจะไม่เข้าฟอร์มเท่าไหร่ ก็ดันไปโชว์ว่าจะเซตบอลออกพื้นที่เขตโทษของตัวเอง แต่ก็ไปพลาด เมื่อทาง แบร์นาโด้ ซิลวา นั้นดันดักบอลได้ ที่ทาง บาร์โก้ จะจ่ายให้เพื่อน และไปเข้าทาง โฟเด้น ที่ยิงด้วยซ้ายบอลเสียเสาสองเข้าไป ทำให้ ซิตี้ นำห่างสบายแฮในครึ่งแรกที่ 3-0 เลยทีเดียว และก็จบไปได้ด้วยสกอร์นี้ในครึ่งแรก

เริ่มเกมในครึ่งหลัง

พอมาในครึ่งหลังนั้น โรแบร์โต้ เดอ แชร์บี้ อยู่ไม่ได้ เปลี่ยนเอาทาง ไซม่อน เอดินก้า กับทาง โอเดลูก้า โอฟิอา ลงมาแทน อดัม ลัลลาน่า และ โจเอล เวลท์มัน ทันที แต่เกมนั้นก็ยังไม่ได้ดีขึ้นเลย ซึ่งในาทีที่ 58 ฟิล โฟเด้น สบโอกาส ได้บอลจ่ายทะลุให้กับทาง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ พาบอลเข้าไปยิงด้วยขวา แต่ยังดีที่ไปตรงตัวของทาง เจสัน สตีล

จนแล้วจนรอดทาง ไบร์ทตัน ก็มาโดนลูกที่ 4 จนได้ เมื่อทีมนั้นเล่นเกมรุกดันขึ้นสูง แต่ไปโดนทาง เอแดร์สัน นายทวารของทัพ เรือมบ โชว์วางบอลจากกรอบเขตดทษตัวเองให้ทาง ไคล์วอร์คเกอร์ ที่วิ่งเติมขึ้นไป พาบอลเข้าเขตดทษด้านขวา ล็อกหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะสไลด์จ่ายย้อนมาให้ทาง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ยิงเข้าไปอย่างสบายๆ ส่งให้ทีมเยือนออกนำ 4-0

พอในช่วงเวลาที่เหลือ ซิตี้ ก็ผ่อนเกมให้ทาง เจ้าบ้านบุกเข้าใส่บ้าง แต่ก็ไม่มีการเข้าทำที่อันตรายเท่าไหร่นัก จบเกม ไบรืทตัน พ่ายคาบ้านให้ ซิตี้ ไป 0-4 ทำให้ทีมนั้นยังอยู่ในอันดับที่ 11 เหมือนเดิม มี 44 คะแนน ส่วนทาง ซิตี้ ขยับขึ้นไปที่ 2 ของตาราง มี 76 คะแนน ตามหลัง อาร์เซน่อล อยู่ 1 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด